พบหลักฐานญิฮาดุนนิกะฮ์มีที่มาจากหนังสือบุคอรีและมุสลิม
หลักฐาน ฮะดิษ ญิฮาดุนนิกะห์ ในหนังสือศอเฮียฺ บุคอรีย์
พวกเราเคยทำสงครามร่วมกับนบี โดยไม่มีผู้หญิงไปพร้อมกับเรา ต่อมาพวกเราได้กล่าวว่า พวกเราจะไม่ต้องตอนหรือ โอ้รอซูลุลลอฮ์ ท่านได้ห้ามพวกเรา และได้ผ่อนผันให้พวกเราหลังจากนั้น แต่งงานกับผู้หญิงโดยมีสินสอดเป็นผ้า หลังจากนั้นเขาได้อ่านอายะห์นี้ รายงานโดยบุคอรี และมุสลิม
สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ออนไลน์ รายงาน ตามรายงานสำนักข่าวชีอะห์ ออนไลน์ : ศัพท์ ญิฮาดุนนิกะห์ เริ่มมีมาเมื่อช่วงหนึ่งปีที่แล้ว ซึ่งศัพท์นี้ถูกบัญญัติใช้ครั้งแรก โดยมุฟตีย์วะฮาบีย์ชาวตูนิเซีย
ตามคำฟัตวาดังกล่าว มุฟตีย์สลาฟี ได้ประกาศให้หญิงสาวชาวอาหรับเดินทางยังแผ่นดินซีเรีย เพื่อสนองอามรณ์ตัณหาความใคร่ให้กับกลุ่มกบฏและกลุ่มก่อการร้ายโค่นล้มรัฐบาลซีเรีย
และหลังจากนั้น บรรดามุฟตีย์วาฮาบีย์จากประเทศต่างๆของโลกอาหรับ โดยเฉพาะซาอุฯ ก็ได้ออกมาตอบรับในคำฟัตวาดังกล่าว ด้วยการออกมาสนับสนุนคำฟัตวาดังกล่าวโดยให้บรรดาสตรี หญิงม่าย เข้าสู่แผ่นดินซีเรียเพื่อทำการญิฮาดุนนิกะห์
มุฮัมมัด อัลอุรัยฟี หนึ่งในมุฟตีย์สลาฟีตักฟีรีย์ชื่อดัง ของซาอุฯ ก็ได้ออกมาประกาศคำฟัตวาว่า แม้แต่หญิงสาวที่สามี ก็สามารถเข้าร่วมในการญิฮาดุนนิกะห์ครั้งนี้
และล่าสุด มุฟตีย์วะฮาบีย์ เชค นาศีร อัลอัมร์ ก็ได้ออกคำฟัตวาใหม่ว่า การญิฮาดุนนิกะห์ กับมุห์ริม ก็เป็นสิ่งที่อนุมัติ (ฮาลาล) ซึ่งตามคำฟัตวาดังกล่าวของเขา นั้น หากนักรบกลุ่มกบฏ ไม่สามารถหาหญิงสาวในการร่วมหลับนอนแล้ว ก็สามารถที่จะร่วมหลับนอนกับมุห์ริมได้
ซึ่งหากพิจารณาคำฟัตวาดังกล่าวแล้ว สามารถค้นพบแหล่งอ้างอิงที่นำมาประกอบใช้ในการออกคำฟัตวา เป็นฮะดิษบทหนึ่ง ที่ถูกบันทึกในหนังสือ ศอเฮีอ์ที่สุดของพี่น้องอะห์ลิลซุนนะห์ คือ หนังสือศอเฮีอ์ บุคอรีย์
ตัวบทของฮะดิษดังกล่าว มีใจความว่า เล่าจากอับดิลลาห์ ได้กล่าวว่า พวกเราเคยทำสงครามร่วมกับนบี โดยไม่มีผู้หญิงไปพร้อมกับเรา ต่อมาพวกเราได้กล่าวว่า พวกเราจะไม่ต้องตอนหรือ โอ้รอซูลุลลอฮ์ ท่านได้ห้ามพวกเรา และได้ผ่อนผันให้พวกเราหลังจากนั้น แต่งงานกับผู้หญิงโดยมีสินสอดเป็นผ้า หลังจากนั้นเขาได้อ่านอายะห์นี้ (รายงานโดยบุคอรี และมุสลิม
และนี่คือหลักฐานที่มุฟตีย์วาฮะบียสลาฟี ยกเป็นหลักฐานประกอบในการออกคำฟัตวา ญิฮาดุนนิกะห์
แสดงความเห็น