ราชวงศ์อัลคาลีฟะฮ์ สั่งทำลายสุสานมุสลิมชีอะฮ์
ราชวงศ์อัลคาลีฟะฮ์ สั่งทำลายสุสานมุสลิมชีอะฮ์
สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ออนไลน์ รายงานจากสำนักข่าวอับนา ว่าทหารรับจ้างของราชวงส์อัล คอลีฟะฮ์ ในประเทศบะฮ์เรนได้ร่วมมือกับประเทศซาอุดิอารเบีย ในการปราบปรามกลุ่มประชาชนที่รวมตัวกันปฏิวัติการปกครองในประเทศบะห์เรน ซึ่งในการปราบปราบที่ผ่านมานั้นมีผู้เป็นชะฮีด และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
แต่ในการปราบปรามไม่ได้อยุดเพียงแค่นั้น เมื่อราชวงศ์อัล คาลีฟะห์ ได้ส่งทหารรับจ้างไปทำลายมัสยิดของชาวมุสลิมนิกายชีอะฮ์ เกือบ 40 แห่งทั่วประเทศบะห์เรน การทำลายมัสยิดที่เกิดขึ้นที่ประเทศบะห์เรนนั้นเป็นอาชญากรรมที่เลวร้าย นับเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้วที่เหตุการดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยนานาชาติไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือแม้แต่นิดเดียว
แต่มีเหตุการณ์ที่น่าสะเทือนใจยิ่งกว่านั้นคือ เมื่อเช้าวันพฤหัส(5 ก.ย.)กลุ่มทหารรับจ้างจากราชวงศ์อัล คาลีฟะห์ได้ใช้รถแทรกเตอร์ขุดและทำลายสุสานของมุสลิมชีอะฮ์ที่เมืองอบูซีบะอ์ ทางตะวันตกของประเทศบะห์เรน โดยรถแทรกเตอร์ได้ทำลายกำแพงสุสาน และขุดหลุมฝังศพขึ้นมาจากใต้ดิน การกระทำดังกล่าวเป็นที่รู้กันดีว่า ทหารรับจ้างรับคำสั่งโดยตรงจากประมุขของราชวงศ์อัลคาลีฟะห์
การปราบปรามการชุมนุมประท้วงประชาชนชาวบะห์เรนดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตลอด 2 ปี แต่ราชวงศ์อัล คาลีฟะห์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะปราบปรามประชาชนที่ต่อต้านการปกครองแบบเผด็จการของราชวงศ์ได้สำเร็จ ถึงแม้จะได้รับการช่วยเหลือจากประเทศซาอุดิอารเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่ปกครองในแบบเดียวกัน นับได้ว่าบะห์เรนเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ประชาชนต้องตกอยู่ใต้การกดขี่ข่มเหงจากราชวงศ์ซึ่งปกครองประเทศ และขาดการเหลียวแลจากนานาชาติ
แสดงความเห็น