ขบวนการอินติฟาเฎาะฮฺปาเลสไตน์

พลเมืองชาวปาเลสไตน์ผู้ถูกอธรรมได้ร่วมกันต่อสู้กับ ประเทศจากหมู่เกาะอังกฤษ และยิวไซออนนิสต์อย่างกล้าหาญชาญชัยตั้งแต่แรกแล้ว และเพื่อปกป้องและรักษาแผ่นดินของตนเอง พวกเขาได้จัดตั้งกลุ่มขึ้นมา เดินขบวนประท้วงเพื่อประกาศให้ชาวโลกได้รับรู้ถึงความเลวร้ายของยิว การยืนหยัดต่อสู้ของพวกเขาได้มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. ที่ 1920, 1923, 1929 โดยกลุ่มนักต่อสู้นามว่า อิงกะลอบบัรรอก ท่านเชคอิซซุดดีน กุสซาม ได้จัดตั้งกลุ่ม อิสลามี  เพื่อต่อสู้กับกองกำลังของยิวไซออนนิสต์ และอังกฤษ ในที่สุดในปี ค.ศ. ที่ 1935 เขาก็ได้รับชะฮีด

หลังจากเชคอิซุดดีน เป็นชะฮีดไป ชาวปาเลสไตน์ได้ตั้งผู้นำขบวนการต่อสู้ขั้นมาใหม่นามว่า ฮัจญฺ อะมีน ฮุซัยนฺ ท่านเป็นนักปราชญ์ระดับสูงของกุดส์ (มุฟตี) พวกเขาได้ร่วมกันต่อสู้เป็นหนึ่งเดียวกัน นอกจากนั้นแล้ว ฮุซัยนฺ สะลามะฮฺ อับดุลเราะฮีม อัลฮาจมุฮัมมัด อับดุรเราะฮีม มะฮฺมูดดี และบุคคลอื่นที่เป็นลูกศิษย์ของชัยคฺ อิซซุดดีน กุซาม พวกเขาได้ปฏิบัติการต่างๆ เพื่อต่อต้านทหารอังกฤษและยิวไซออนนิสต์

ปี ค.ศ.ที่ 1987 ประชาชนชาวปาเลสไตน์ได้ร่วมแรงร่วมใจกันต่อสู้ในแนวใหม่ ซึ่งเป้าหมายและอุดมการณ์ในการยืนหยัดต่อสู้ในครั้งนี้นามว่า อินติฟาะเฏาะฮฺ ซึ่งพวกเขาได้จัดกลุ่มกันในมัสญิด ดังกล่าวไปแล้วว่า การยืนหยัดต่อสู้ของพี่น้องปาเลสไตน์เริ่มมีตั้งแต่ก้าวแรกที่ยิวได้อพยพเข้ามาในปาเลสไตน์ แต่ขบวนการอินติฟาเฏาะฮฺ ได้ก่อตั้งขึ้นภายในเขตยึดครองของยิวไซออนนิสต์ พวกเขาใช้อาวุธไม่ทันสมัย ไม่มีอันตราย และไม่มีราคาค่างวดแต่อย่างใด ทว่ามันเป็นเพียงก้อนหินที่พวกเขาขว้างเข้าใส่หทารของยิว สิ่งนี้บ่งบอกให้เห็นว่าประชาชนชาวปาเลสไตน์สิ้นหวังกับการเจรจาด้านการเมือง ของประเทศอาหรับทั้งหลายแหล่ และการช่วยเหลือจากกลุ่มหรือองค์กรต่างๆ พวกเขาจึงตัดสินใจจัดตั้งกลุ่มต่อสู้ขึ้นเอง ซึ่งคุณสมบัติพิเศษของขบวนการต่อสู้นี้คือ ความเป็นอิสลาม มีเป้าหมายเพื่ออิสลาม ขบวนการอินติฟาเฎาะฮฺเพิ่งจะเกิดได้ไม่นานบนเขตยึดครองของยิวไซออนนิสต์ พวกเขาทั้งหมดต่างมีความเชื่อในการเมืองแบบอิสลาม

กลุ่มต่อสู้ที่สำคัญของขบวนการอินติฟาเฎาะฮฺมีอยู่ 2 กลุ่มคือ กลุ่มญิฮาดอิสลาม และฮะมาส

1-กลุ่มญิฮาดอิสลาม

กลุ่มต่อสู้ดังกล่าวอาจกล่าวได้ว่าเป็นผลพวงมาจาก ขบวนการอิควานุลมุสลีมีน มี ดร.ฟัตฮี ชะกอกียฺ เป็นหัวหน้านำการต่อสู้  กลุ่มดังกล่าวนี้ได้จัดตั้งขึ้นเมือปี ค.ศ. ที่ 1980 จัดได้ว่าเป็นกลุ่มนักต่อสู้ชาวปาเลสไตน์ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อต่อสู้กับยิวไซออนนิสต์โดยเฉพาะ สาเหตุและที่มาของการเกิดกลุ่มนี้ (ญิฮาดอิสลาม) มาจาก ขบวนการอิควานุลมุสลิมีน ซึ่งอิควานุลมุสลิมีนนั้น อาศัยการฝึกฝนกองกำลังมนุษย์เป็นหลักมากกว่าการต่อสู้ แต่กลุ่มญิฮาดอิสลามนั้น อาศัยการต่อสู้มากกว่าการฝึกหรือสร้างกำลังมนุษย์ อาจกล่าวได้ว่ากลุ่มต่อสู้ญิฮาดอิสลามนั้นลอกเรียนแบบการต่อสู้มาจากการปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน เนื่องจากรากหลักในการต่อสู้คือ ญิฮาด ชะฮาดัต และเสียสละเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย กลุ่มญิฮาดอิสลามีความเชื่อวิถีการต่อสู้ภายในปาเลสไตน์ พวกเขาจึงมีบทบาทสำคัญต่อการจัดตั้งขบวนการอินติฟาเฎาะฮฺ และเป็นหัวหน้าขบวนการ

ตามความเป็นจริงแล้วกลุ่มญิฮาดอิสลามคือคำตอบสำหรับทีมต่อสู้เพื่อปาเลสไตน์ในอดีค กล่าวคือ กลุ่ม ซาฟ ซึ่งพวกเขาได้ต่อสู้โดยปราศจากอุดมการณ์อิสลาม และกลุ่มอิควานุลมุสลิมีน ซึ่งใช้การเมืองแบบอิสลามแต่ปราศจากการต่อสู้ แต่แนวคิดของกลุ่มญิฮาดอิสลามนั้นเกิดจากการผสมผสานระหวางอสิลามกับเชื้อชาติ

2-ฮะมาส

กลุ่มยืนหยัดต่อสู้อิสลาม (ฮะมาส) คือขบวนการเคลื่อนไหวของปาเลสไตน์ ซึ่งมีความแตกต่างจากองค์กรหรือกลุ่มอื่นตรงที่ กลุ่มฮะมาสได้ย้อมตนด้วยสีสันของอิสลาม และเอาอิสลามนำหน้าเพื่อชัยชนะและเพื่อการปลดปล่อยปาเลสไตน์ ประกอบกับกลุ่มฮะมาสได้พยายามต่อสู้เพื่อเอกความเป็นเอกภาพ ความเป็นหนึ่งเดียวในการต่อสู้ การปลดปล่อยปาเลสไตน์ให้เป็นอิสระและจัดตั้งรัฐอิสลามในปาเลสไตน์คืออุดมการณ์สำคัญ คำว่า ฮะมาส ได้สร้างมาจากคำว่า ฮะระกัต (การเคลื่อน) มุกอวิมัต (ยืนหยัด) และอิสลาม ความหมายก็คือ กองกำลังเพื่อสร้างความขันติ บริหาร และกล้าหาญ กลุ่มฮะมาสได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ วันที่ 14 ธันวาคม 1987

ฮะมาส อีกนัยหนึ่งก็คือ อิควานุลมุสลิมีนนั่นเอง เพียงแต่ว่าอยู่ในขั้นใหม่ที่สมบูรณ์กว่าหรืออยู่ในขั้นตอนของการปฏิบัติการ ขบวนการอิควานุลมุสลิมีนในสมัยนั้นเชื่อเรื่องการผลิตกำลังมนุษย์ การอบรมและฝึกฝนกำลัง ดังที่ผู้นำฮะมาสกล่าวว่า องค์กรฮะมาสกล่าวมาสู่ขั้นปฏิบัติการแล้ว ดังนั้น การจัดตั้งกลุ่มฮะมาสเท่ากับว่าขบวนการอิควานุลมุสลิมีนได้พัฒนามาอีกขั้นหนึ่งนั่นเอง หมายถึง ตามความเป็นจริงแล้ว ฮะมาสก็คือ กองกำลังของอิควานุลมุสลิมีนนั่นเอง

ผู้นำด้านจิตวิญญาณของกลุ่มฮะมาสคือ เชคอะฮฺมัดยาซีน ความสำเร็จของ 2 กลุ่มต่อสู้ (กลุ่มญิฮาดอิสลามกับฮะมาส) ขึ้นและเกี่ยวข้องโดยตรงกับการตื่นตัวของมุสลิมอาหรับ และมุสลิมทั่วทั้งโลก ขบวนการอิสลามดังกล่าวนั้นเป็นผลพวงจากแนวความคิดของท่านอิมามโคมัยนี (รฎ.) เนื่องจากท่านอิมามนั้นจะแตกต่างไปจากนักต่อสู้และนักคิดคนอื่น กล่าวคือท่านจะมีการรู้จักศัตรูเป็นอย่างดี ท่านอิมามอาศัยประสบการในการเรียนรู้ศาสนา ซึ่งสิ่งนี้กลายเป็นประสบการณ์ที่มีผลต่อการต่อสู้ของอิมาม บนความเชือดังกล่าวท่านอิมามจึงเชื่อว่า ศัตรูแห่งศาสนาของเราคือ อเมริกา อังกฤษ และยิวไซออนิสต์ อิมามเปรียบพวกเขาเหมือนหมาบ้า ท่านกล่าวว่าถ้าเราถอยหลังเพียงก้าวเดียว พวกมันจะได้ใจและจะไม่พูดถึงเรืองความรอมชอมอีกต่อไป ทว่านอกจากเราจะไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียวแล้ว เรายังจะบุกไปข้างหน้าอีก 10 ก้าว

ไซออนิสต์ที่วางสโลแกนว่า จากแม่น้ำไนล์จนถึงยูเฟรติส วันนี้เราจะเห็นว่าแผนการร้ายของเขาได้เริ่มต้นขึ้นอีกแล้ว กล่าวคือพวกเขากำลังกว้านซื้อที่ดินของชาวอีรัก เหมือนกับที่พวกเขาเคยทำกับปาเลสไตน์มาแล้วโดยผ่านนายหน้าอย่างรัฐบาลอังกฤษ ดังนั้น สิ่งเหล่านี้บ่งบอกให้เห็นเจตนาร้ายที่แอบแฝงอยู่ในใจของพวกเขาตลอดเวลา พวกเขาจะปฏิบัติมันเมื่อได้เวลาอันสมควร ดังนั้น จะเห็นว่าสันติภาพไม่ทางเกิดขึ้นได้แน่นอน เมื่อเป็นเช่นนั้นไม่เพียงแค่ประชาชนชาวปาเลสไตน์ หรือกลุ่มต่อสู้ในปาเลสไตน์เท่านั้น ทว่ามุสลิมทั้งโลกไม่มีทางมองการเจรจาเพื่อสันติภาพระหว่างยิวกับปาเลสไตน์เป็นเรื่องดีแน่นอน เพราะมันมีแผนการร้ายแอบแฝงอยู่นั่นเอง