อิมามมะฮฺ์ดีในซูเราะฮ์อัลก็อดร์

อิมามมะฮ์ดีในซูเราะฮ์อัลก็อดร์

انا انزلناه فی لیلة القدر وماادریک ما لیلة القدر لیلة القدر خیر من الف شهر تنزل الملائکة والروح فیها باذن ربهم من کل امر سلام هی حتی مطلع الفجر

صدق الله العلی العظیم

ค่ำคืนแห่งอานุภาพ เป็นคืนที่ประเสริฐและสูงส่งมากกว่าคืนทั้งหลาย เกินกว่าปถุชนธรรมดาจะเข้าไปถึงได้ พี่น้องลองพิจารณาสักนิด ในเดือนแต่ละเดือน มีเดือนเดียวที่ประเสริฐและมีเกียรติที่สุด และเดือนเป็นเดือนแห่งอัลลอฮ์ ค่ำคืนของเดือนนี้ มีความประเสริฐมากกว่าหนึ่งพันเดือนทีเดียว เป็นค่ำคืนที่พิเศษที่สุดในค่ำคืนทั้งหลาย ค่ำคืนที่ทุกสรรพสิ่งต่างทำการสดุดีพระองค์ มวลศรัทธาชนต่างต้องการที่เข้าใกล้ชิดต่อพระองค์ ต่างก็ขอดุอา วิงวอน พร่ำเพรียกเรียกหา ดังนั้น ค่ำคืนนี้ก็คือ ลัยละตุลก็อดร์ เป็นค่ำคืนที่ต้องมีอะไรพิเศษแน่นอน

ทีนี้เรามาดูกันในรายละเอียดของซูเราะฮ์นี้กัน ต่อไป โดยแท้จริงอัลลอฮ์ทรงตรัสว่า แท้จริงเราได้ประทานมัน (อัลกุรอาน )ในคืนแห่งอานุภาพ (ลัยละตุลก็อดร์) ซึ่งจะเห็นได้ว่า ค่ำคืนนี้มีสิ่งหนึ่งที่ถูกนำลงมาจากฟากฟ้า นั่นก็คือ อัลกุรอาน มหาพระคัมภีร์แห่งมวลอิสรชน เป็นคัมภีร์แห่งทางนำ นี่คือ สิ่งแรกที่ถูกประทานในคืนลัยละตุลก็อดร์ ถามว่า อัลกุรอานถูกประทานลงมาอย่างไร หรือวิธีใด

คำตอบก็คือ จากวิชาการที่เกี่ยวกับอัลกุรอานหรือ ศาสตร์แห่งอัลกุรอานได้ยืนยันถึงการประทานลงมาของอัลกุรอานด้วยสอง วิธีการ แนวทางแรก คือ การลงมาแบบ ดัฟอี หรือ เรียกกันว่า การลงมาครั้งเดียวของอัลกุรอานในอกของศาสดามุฮัมมัด และวิธีการที่สอง คือ การลงมาทีละโองการ ทีละซูเราะฮ์ แล้วแต่สาเหตุของมัน เรียกกันว่า ตัดริญีย์ ตามอัสบาบุลนุซูล หรือที่มาของโองการต่างๆ แต่อัลกุรอานที่ประทานลงมาในคืนลัยละตุลก็อดร์ คือ การประทานลงมาด้วยวิธีการใด

คำตอบก็คือ การลงมาแบบม้วนเดียว หรือ ครั้งเดียว แด่ท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ) จากหลักฐานของโองการนี้ที่กล่าวว่า انزل  หมายถึง การลงมาครั้งเดียว ซึ่งมีความแตกต่างกับคำว่า نزّل   หมายถึง การลงมาหลายครั้ง และโองการกล่าวว่า انزلنا  หมายถึง เราได้ประทานลงมาเพียงครั้งเดียว

ค่ำคืนแห่งอานุภาพ คือ ลัยละตุลก็อดร์ ที่มีความประเสริฐมากกว่าหนึ่งพันคืน ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องถึงหนึ่งคืนของคืนอันทรงเกียรตินี้ สำหรับผู้ศรัทธาที่แท้จริง เพราะมีริวายะฮ์หนึ่งกล่าวว่า เพียงสักชั่วโมงเดียวก็เพียงพอแล้ว

ดั่งวจนะที่กล่าวว่า การใช้ความคิดเพียงหนึ่งชั่วโมงนั้น ประเสริฐกว่า การทำอิบาดะฮ์ถึงเจ็ดสิบปี

เพราะฉะนั้น ในอิสลามสอนว่าให้มนุษย์ใช้ความคิด ซึ่งจะเป็นบ่อเกิดแห่งความรู้ ความศรัทธา และมีโองการต่างๆมากที่กล่าวถึงการใช้ความคิด เหมือนกับมีริวายะฮ์หนึ่งที่กล่าวว่า เจ้ารู้เสียเถิดว่า เจ้ามาจากที่ไหนและอยู่ที่ไหนและจะไปที่ไหน

จากริวายะฮ์แสดงให้เห็นความสำคัญในการใช้ความคิด และมนุษย์เองจะต้องใช้ความคิด สังเกตุ พิจารณา ตั้งแต่การสร้างของเขาว่า เขานั้นถูกสร้างมาจากไหน และท้ายสุดชีวิตของเขาจะไปที่ไหน หากมนุษย์ทุกคนใช้สติปัญญาในการครุ่นคิด เมื่อนั้นเขาจะได้รับคำตอบในปัญหาที่พบเจอ

มาต่อกันในเนื้อหาของการอรรถาธิบายซูเราะฮ์อัลก็อดร์อีกครั้ง

เมื่อเราทราบว่า อัลกุรอานเป็นสิ่งที่ประทานลงมาในคืนลัยละตุลก็อดร์ และคืนลัยละตุลมีความประเสริฐมากกว่าหนึ่งพันเดือน

อัลลอฮ์ (ซ.บ) ยังตรัสอีกว่า มวลมลาอิกะฮ์ (ทูตสวรรค์) และรุฮ์ได้ลงมาในคืนนี้ กล่าวคือ คืนลัยละตุลก็อดร์ ถามว่า รุฮ์ คือ อะไร หมายถึงสิ่งใด

คำตอบก็คือ รุฮ์ เป็นสิ่งสร้างแห่งพระองค์ที่ยิ่งใหญ่กว่ามะลาอิกะฮ์ เพราะริวายะฮ์กล่าวว่า อะอ์ศ็อม มิน มะลาอิกะฮ์

ดังนั้น จะเห็นได้ว่า นอกเหนือจากอัลกุรอานถูกประทานลงมา ยังมีสิ่งมีชีวิตสองสิ่ง นั่นก็คือ มวลมลาอิกะฮ์ และรุฮ์ ก็ลงมาพร้อมกัน

มีคำถามเกิดขึ้นว่า ในเมื่อยอมรับว่า อัลกุรอานถูกประทานลงมาพร้อมทั้งยังมีมลาอิกะฮ์และรุฮ์ก็ถูกส่งลงมาแล้ว สิ่งเหล่านี้ลงไปให้ใคร ?

เมื่อสิ่งที่ถูกส่งลงมา ตามสติปัญญาของเรากล่าวว่า จะต้องมีสิ่งที่รับสิ่งนั้น และใครคือ ผู้รับอัลกุรอาน และมวลมลาอิกะฮ์และรุฮ์

คำตอบก็คือ มวลมลาอิกะฮ์และรุฮ์ ลงมาเพื่ออิมามมะฮ์ดี หรืออิมามแห่งกาลสมัย เพราะว่า อัลกุรอานกล่าวว่า تنزل

หมายถึง การลงมาอย่างสม่ำเสมอ ทุกๆปี ดังนั้น ชีอะฮ์อิมามียะฮ์มีความเชื่อว่า มวลมลาอิกะฮ์และรุฮฺลงมาพบท่านอิมามมะฮฺดี และถามอีกว่า แล้วมวลมลาอิกะฮ์และรุฮ์ลงมาเพื่ออะไร?

คำตอบจากอัลกุรอานเอง กล่าวว่า من کل امر หมายถึง ทุกกิจการงาน ดังนั้น การกระทำหรือกิจการงานต่างๆของมนุษย์ที่ปฏิบัติตลอดระยะเวลาหนึ่งปีจะถูกนำมาเสนอต่อท่านอิมาม แห่งยุคสมัย โดยการจดบันทึกและลงลายเซ็น ตามภาษาทั่วไป ซึ่งเป็นการกำหนดชะตากรรม อะมั้ลอิบาดะฮ์ ความดี ความชั่วของมนุษย์แต่ละคน เพราะฉะนั้น คืนอัลมีเกียรติ คืนลัยละตุลก็อดร์ คือ ค่ำคืนแห่งการคิดบัญชีชั่วคราวของมนุษย์จากท่านอิมามมะฮ์ดี ผู้ที่จะมาปลดปล่อยโลกให้รอดปลอดภัยจากความอยุติธรรมทั้งหลาย และนำมาซึ่งการปกครองแห่งความยุติธรรม

มีรายงานเกี่ยวกับความประเสริฐในการอ่านซูเราะฮ์อัลก็อดร์อย่างมากมาย อยากจะขอยกสักหนึ่งรายงานจากท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) กล่าวว่า ผู้ใดก็ตามที่อ่านซูเราะฮ์อัลก็อดร์ เท่ากับเขาได้ต่อสู้ในแนวทางแห่งอัลลอฮ์

 

แสดงความเห็น