-กฎเกณฑ์เกี่ยวกับการถือศีลอด - ตอนที่1

 -กฎเกณฑ์เกี่ยวกับการถือศีลอด - ตอนที่1

 

สิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้เป็นเพียงเงื่อนไขบางส่วนที่จำเป็นต้องรับรู้ มิใช่เงื่อนไขทั้งหมดของการถือศีลอด

การถือศีลอดคือ การละเว้นการกิน การดื่มตั้งแต่ก่อนอะซานศุบฮฺจนถึงอะซานมัฆริบ

เงื่อนไขที่ศีลอดเป็นวาญิบ

๑.ต้องบรรลุนิติภาวะตามศาสนบัญญัติ

ศีลอดจึงไม่เป็นข้อบังคับสำหรับเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะตามศาสนบัญญัติ (เด็กผู้ชายต้องมีอายุ ๑๕ ปีบริบูรณ์หรือมีสัญลักษณ์อื่นๆ ส่วนเด็กผู้หญิงต้องมีอายุครบเก้าปีบริบูรณ์)

๒. ต้องมีสติสัมปชัญญะครบบริบูรณ์

ศีลอดจึงไม่เป็นข้อบังคับสำหรับคนที่วิกลจริต แม้ว่าอาการวิกลจริตจะเกิดขึ้นชั่วขณะหนึ่งในเวลากลางวันก็ตาม

๓. ผู้ที่ไม่ได้เดินทางไกล

หมายถึงบุคคลที่มีสถานที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่งและต้องพักอยู่ ณ สถานที่ของตนไม่น้อยกว่าสิบวัน ดังนั้นผู้ที่เดินทางไกล หรือพำนักอยู่ ณ ที่หนึ่งที่ใดไม่เกินสิบวันเขาจึงไม่สามารถถือศีลอดได้ และนมาซของเขาต้องทำแบบย่อ (นมาซสี่ร่อกะอัตให้ทำแค่สองร่อกะอัต)

แต่กรณีที่จำเป็นต้องเดินทางไกล เขาสามารถเดินทางได้หลังจากอะซานซุฮฺร์ ถือว่าศีลอดไม่เสีย และถ้าเขาสามารถเดินทางกลับมาถึงที่พักของตนได้ก่อนอะซานซุฮฺร์ของวันใหม่เขาสามารถถือศีลอดต่อได้ (กรณีที่ยังไม่ได้กระทำในสิ่งที่เป็นสาเหตุทำให้ศีลอดเสีย)

๔.ต้องไม่เมาหรือหมดสติ

๕.ต้องไม่ใช่ผู้เจ็บป่วย

เพราะการถือศีลอดอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพกรณีที่ไม่สบาย

๖.ต้องไม่มีรอบเดือนหรือมีเลือดหลังจากการคลอดบุตร

ดังนั้น บุคคลใดก็ตามที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กล่าว่าเป็นวาญิบสำหรับเขาต้องถือศีลอด

เงื่อนไขที่ถูกต้องของศีลอด

เงื่อนไขที่ถูกต้องหมายถึง การถือศีลอดของบุคคลที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ถือว่าถูกต้องตามศาสนบัญญัติ

๑.ต้องไม่ใช่คนวิกลจริต

๒.ต้องไม่อยู่ในสภาพที่หมดสติหรือมึนเมา

๓.ต้องไม่เจ็บป่วย

๔.ต้องไม่เป็นผู้เดินทางไกล

๕.ต้องสะอาดปราศจากรอบเดือนหรือเลือดหลังการคลอดบุตร

๖.ต้องไม่อยู่ในสภาพมีญุนูบ (หลังจากอสุจิได้เคลื่อนออกมาแล้วยังไม่ได้อาบน้ำตามศาสนบัญญัติ

๗.ต้องมีอายุถึงวัยบาลิฆ (บรรลุนิติภาวะตามศาสนบัญญัติ)

๘.ต้องเป็นผู้ศรัทธา (มุอ์มิน)

สิ่งที่เป็นสาเหตุทำให้ศีลอดเสีย

หมายถึง ผู้ถือศีลอดคนใดคนหนึ่งได้กระทำในสิ่งดังต่อไปนี้ถือว่า ศีลอดของเขาเสียทันที่ และจะต้องถือศีลอดชดใช้ภายหลังจากเดือนร่อมะฎอนได้ผ่านพ้นไปแล้ว สิ่งที่ทำให้ศีลอดเสียมี ๑๐ ประการดังต่อไปนี้

๑-๒. ตั้งใจกินและดื่ม ไม่ว่าจะมีปริมาณมากหรือน้อยก็ตาม

๓.การร่วมประเวณี ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

   ๔. เจตนากล่าวเท็จที่พาดพิงไปยังอัลลอฮฺ (ซบ.) ท่านศาสดา (ศ็อลฯ) บรรดาอิมามมะอฺซูม (อ.) รวมไปถึงท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ (อ.) และบรรดาศาสดาทั้งหลาย เช่นกล่าวว่า อัลลอฮฺ (ซบ.) ตรัสว่า..ซึ่งไม่มีอยู่ในอัล-กุรอาน..หรือกล่าวว่า ท่านศาสดา หรือบรรดาอิมามมะอฺซูมสั่งให้ทำ...ซึ่งไม่มีอยู่จริงและไม่มีหลักฐานยืนยันคำพูดนั้น

๕. ตั้งใจดำน้ำโดยให้ศีรษะทั้งหมดอยู่ใต้น้ำ

ตั้งใจให้ฝุ่นละออง หรือควัน หรือไอน้ำที่มีจำนวนมากเข้าไปในลำคอ

   ๗. ตั้งใจคงสภาพการมีญูนุบ (หมายถึงภายหลังจากได้ร่วมหลับนอนกับภรรยา หรือหลังจากที่อสุจิได้เคลื่อนออกมาแล้วยังไม่ได้อาบน้ำตามศาสนบัญญัติ) หรือแม้แต่จะไม่ตั้งใจคงสภาพดังกล่าวแต่เป็นเพราะหลงลืมถือว่าศีลอดเสียและต้องถือศีลอดชดใช้ภายหลัง

๘. การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง (อิสติมนาอ์) อันเป็นสาเหตุให้อสุจิเคลื่อนออกมา และการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองของหญิง

๙. การสวนทวารด้วยของเหลวทุกชนิด

๑๐. การตั้งใจอาเจียน

บางประเด็นเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้ศีลอดเสีย

๑.ไม่อนุญาตให้กลืนเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟัน ถ้าหากกลืนลงไปเป็นสาเหตุทำให้ศีลอดเสีย

๒.อนุญาตให้บ้วนปาก ล้างจมูก และชิมอาหารได้แต่จะต้องไม่ลงไปถึงลำคอ

๓.อนุญาตให้กลืนน้ำลายที่ไม่มีเศษอาหาร หรือน้ำลายที่ยังไม่ได้กระทบกับสิ่งอื่นภายนอกปาก

๔.อนุญาตให้ฉีดยา (ต้องไม่ใช่วิตตามิน หรือยาบำรุงที่ทำให้รู้สึกอิ่ม) ยอดยาที่ตาหรือหู

๕.ถ้าลืมไปว่าถือศีลอด และเขาได้กินหรือดื่มถือว่าศีลอดไม่เสียแต่ถ้านึกได้เมื่อใดต้องคายอาหารและเครื่องดื่มนั้นทันที

๖.ไม่อนุญาตให้หลับนอนกับภรรยาในเวลากลางคืน ถ้าหากรู้ว่ามีเวลาไม่พอสำหรับการทำฆุสลฺญินาบะฮฺหรือทำตะยัมมุม

๗.ถ้าอสุจิได้เคลื่อนออกมา และไม่สามารถอาบน้ำญินาบะฮฺก่อนอะซานศุบฮฺได้ ดังนั้นเป็นวาญิบให้ทำตะยัมมุมแทนการอาบน้ำฆุสลฺ

๘.กรณีที่หญิงหมดรอบเดือนหรือเลือดหลังการคลอดบุตรก่อนอะซานศุบฮฺ จำเป็นต้องรีบทำฆุสลฺ ถ้าหากเธอปล่อยทิ้งไว้จนกระทั่งถึงเวลาอะซาน กฎของเธอเหมือนกับผู้ที่ตั้งใจคงสภาพญินาบะฮฺจนถึงอะซานศุบฮฺ ศีลอดของเธอเสียและต้องถือศีลอดชดใช้ภายหลัง

๙.ถ้าตั้งใจละศีลอดในตอนกลางวัน ถือว่าศีลอดเสียและเขาต้องถืออด (อิมซาก) ไปจนถึงช่วงพระอาทิตย์ตกดิน

บุคคลที่ศีลอดไม่เป็นวาญิบสำหรับเขา

บุคคลที่ศีลอดไม่เป็นวาญิบสำหรับเขา แต่ต้องมีการปฏิบัติอย่างอื่นเพื่อเป็นการชดเชยได้แก่

๑.ชายและหญิงชรา

ถ้าหากทั้งสองไม่สามารถถือศีลอดได้ เนื่องจากความยากลำบาก หรืออาจมีอันตรายต่อสุขภาพได้ ดังนั้น ให้ทั้งสองจ่ายศ่อดะเกาะฮฺทดแทนทุกวันที่ไม่ได้ถือศีลอด เป็นอาหารจำนวน ๓ กิโลกรัม

๒.หญิงที่มีรอบเดือนหรือเลือดหลังการคลอดบุตร

ให้เธอละศีลอดขณะที่เธอได้เห็นเลือด แม้ว่าจะก่อนอะซานมัฆริบเพียงเล็กน้อยก็ตาม และให้ถือศีลอดชดใช้ภายหลังจากเดือนร่อมะฎอนตามจำนวนวันที่ได้ขาดไป

๓.บุคคลที่มีความกระหายอย่างรุนแรง

หมายถึงบุคคลที่กระหายน้ำอย่างรุนแรง และการถือศีลอดเป็นความลำบากอย่างยิ่งสำหรับเขา หรืออาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ดังนั้น ให้เขาบริจาคอาหารจำนวน ๓ กิโลกรัม และต้องถือศีลอดชดใช้ ถ้าหากเขามีความสามารถในภายหลัง

๔.หญิงตั้งครรภ์

การถือศีลอดอาจมีผลกระทบหรือเป็นอันตรายต่อทารกที่อยู่ในครรภ์หรือต่อตัวเธอเอง อนุญาตให้เธอไม่ต้องถือศีลอดได้ แต่ต้องชดใช้ภายหลัง และต้องบริจาคอาหารจำนวน ๓ กิโลกรัมทุกวันตามจำนวนวันที่ขาด

๕.แม่ลูกอ่อนที่มีน้ำนมน้อย

ถ้าหากเธอเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อทารก หรือต่อตัวเธออนุญาตให้เธอไม่ต้องถือศีลอดในช่วงนั้น แต่ต้องถือศีลอดชดใช้ในภายหลังและต้องจ่ายอาหารจำนวน ๓ กิโลกรัม

แสดงความเห็น